สูตรเด็ดปุ๋ยหมักโบกาฉิ

การทำโบกาฉิ
รวมสูตรปุ๋ยหมัก
โบกาฉิ  หมายถึง การทำปุ๋ยหมักโดยเอาวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติหมักด้วยการใช้จุลินทรีย์อีเอ็ม การหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพเป็นปุ๋ยหมักกองเล็กใช้เวลาหมักไม่เกิน 7 วัน จะได้ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพ สูงเพราะคุณลักษณะของจุลินทรีย์จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณสมบัติของปุ๋ยหมัก
ในอดีตเราคุ้นเคยการทำปุ๋ยหมักกองโต ใช้เวลาหมักหลายเดือนคุณสมบัติของอินทรียวัตถุที่เหลือ เป็นเพียงกากอินทรียวัตถุที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมักกองโตจะมีประสิทธิภาพด้อย เพราะคุณสมบัติของจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถทำได้ 2 อย่าง เช่น โบกาฉิฟางและ โบกาฉิมูลสัตว์ แต่ในบทความนี้จะอธิบายถึงเฉพาะโบกาฉิมูลสัตว์เท่านั้นนะครับ
ปุ๋ยคอก ได้แก่ มูลสัตว์ทุกชนิด เช่น มูลวัว ควาย หมู ไก่ นกกระทา ฯลฯ ซึ่งมูลสัตว์เหล่านี้พบว่ามีกลิ่นเหม็น เป็นเพราะว่าในมูลสัตว์นั้นมีจุลินทรีย์เน่าเปื่อย (เชื้อโรค) อยู่มาก ซึ่งหากเรานำไปใช้ในการปลูกพืช แทนที่ปุ๋ยคอกนั้นจะมีประโยชน์อย่างสูงกับพืช ปุ๋ยคอกนั้นก็จะเป็นตัวชักนำโรคเข้าสู่ต้นพืช เพราะการทำงานของจุลินทรีย์เน่าเปื่อยที่มีอยู่ในมูลสัตว์ ดังนั้นเพื่อให้ปุ๋ยคอกมีประสิทธิภาพสูงจึงจะต้องหมักด้วยจุลินทรีย์อีเอ็มก่อน พืชจึงจะมีผลผลิตที่มีคุณภาพให้ผลผลิตสูง ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน ดินโปร่งร่วนซุย ดินไม่อัดแน่น รากพืชขยายได้ดี สัตว์เล็ก น้อย ที่อยู่ใต้ดินก็กลับมาเหมือนเดิม นั่นคือพื้นฐานการทำดินให้มีชีวิต ที่พบง่ายด้วยตาเปล่าคือไส้เดือน นั่นคือสิ่งชี้ให้เห็นว่า ดินเริ่มกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ตามแบบธรรมชาติดั้งเดิมด้วยการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ
ในอดีตเรามักจะนำเอามูลสัตว์ไปใส่ในดินเฉยๆ ก็ทำให้พืชพันธุ์ธัญญาหารงามอุดมสมบูรณ์ได้ นั่นเพราะว่าจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพรออยู่ที่ดินก่อนแล้ว เมื่อได้มูลสัตว์ที่เรานำไปใส่ก็จะเข้ามาย่อยสลาย แล้วเร่งผลิตอาหารให้กับพืชต่อไป นั่นคือเกษตรธรรมชาติที่เกษตรกรเคยทำมาแล้วในอดีต
การทำโบกาฉิจากมูลสัตว์
วัสดุ
-มูลสัตว์ (ทุกชนิด)         1          ส่วน      (ปิ๊บ)
-แกลบดิบ                     1          ส่วน      (ปิ๊บ)
-รำละเอียด                   1          ส่วน      (ปิ๊บ)
-อีเอ็ม                           10        ซีซี       (1 ช้อนโต๊ะ)
-กากน้ำตาล                  10        ซีซี       (1 ช้อนโต๊ะ)
-น้ำสะอาด                     10        ซีซี      
วิธีทำ
1. เตรียมอีเอ็ม + กากน้ำตาล + น้ำสะอาด ผสมไว้ในถังในอัตราส่วน 1/1/1,000 คือ น้ำ 10 ลิตร เติมอีเอ็มลง 1 ช้อนโต๊ะ และกากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
2. นำมูลสัตว์+รำละเอียดผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. เอาแกลบดิบทั้งหมดลงในน้ำที่ขยายอีเอ็มในข้อ 1 จุ่มให้เปียกแล้วเอาแกลบออกสลัดน้ำที่หยดในแกลบออกพอประมาณ นำมาคลุกในส่วนผสมระหว่างมูลสัตว์+รำละเอียด คลุกส่วนผสมทั้ง 3 ส่วนให้เข้ากันจะได้ความชื้น 50% พอดี
การหมัก
เอาส่วนผสมบรรจุลงในกระสอบปุ๋ยโดยบรรจุลงไป 3/4 ของกระสอบปุ๋ยไม่กดให้แน่น และเลือกใช้กระสอบปุ๋ยชนิดที่มีการระบายได้ดีรอบด้าน นำไปวางลงในที่มีฟางรองเพื่อการระบายอากาศในส่วนล่าง พลิกกลับกระสอบในวันที่ 2,3,4 เพื่อเอาด้านบนและข้างลงข้างล่างอยู่ 3 วัน ในวันที่ 4 และวันที่ 5 อุณหภูมิก็จะปกติ ทั้งในระหว่างการหมักควรตรวจดูอุณหภูมิไม่ให้อุณหภูมิเกิน 50 C สามารถนำไปใช้ได้
การเก็บรักษา
เก็บรักษาเมื่อโบกาฉิแห้งสนิท ไม่ควรเก็บรักษาในที่ชื้นที่โดนฝนและโดนแดด โบกาฉิสามารถเก็บรักษาได้นานประมาณ 1 ปี ถ้าไม่โดนความชื้น
การนำโบกาฉิไปใช้
โบกาฉิที่หมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพจะมีกลิ่นหอมเหมือนเชื้อเห็ด จะมีราเส้นใยสีขาวขัดใยอยู่หนาแน่นพลังประสิทธิภาพของอีเอ็ม ไม่ทำให้เชื้อโรคแสดงผลออกมาได้
1. การใช้โบกาฉิกับการปลูกพืช
- รองพื้นแปลงปลูก โดยการผสมกับหญ้า ฟาง ซากอินทรีย์วัตถุหรือมูลสัตว์ทุกชนิด ฯลฯ ใช้โบกาฉิโรยทับในปริมาณ 1-2 กำมือ/1 ตารางเมตร รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม (อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาดในอัตราส่วน 1/1/1,000) ใช้จอบสับให้ส่วนผสมเข้ากันกับดิน ทิ้งให้อีเอ็มขยายปรับความสมดุลของดิน 7 วัน จึงนำพืชมาปลูก
- โรยโบกาฉิที่แปลงปลูกพืชผักในปริมาณ 1-2 กำมือ/ตารางเมตร หรือโรยรอบทรงพุ่มของต้นพืชที่ปลูก คลุมทับเศษฟางแห้ง หญ้าแห้ง เพื่อเป็นการขยายเชื้อของอีเอ็ม
- การปลูกพืชที่เก็บผลในระยะสั้นประมาณ 60 วัน ไม่ควรใช้โบกาฉิฟาง ควรใช้โบกาฉิมูลสัตว์ หรือปุ๋ยหมักจะได้ผลรวดเร็วทันความต้องการมากกว่า การใช้โบกาฉิแต่ละครั้งควรใช้ทีละน้อย และใช้บ่อยๆ พืชงามทันใจตามความต้องการ
2. การใช้โบกาฉิกับการปลูกไม้ผล
- รองก้นหลุมไม้ยืนต้น ขุดหลุมลึกประมาณ 60×60×60 ใช้เศษฟาง หญ้าแห้ง กิ่งไม้ มูลสัตว์ ซากวัตถุอินทรีย์อื่น ฯลฯ รองก้นหลุม โรยโกบาฉิ 1-2 กำมือ ผสมกับดินเป็นชั้น ชั้นละประมาณ 10-15 ซม. รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม (อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1/1/1,000) ใช้จอบสับให้ส่วนผสมให้เข้ากับดิน กลางหลุมใช้โบกาฉิผสมกับหญ้ากองดินให้สูงขึ้นประมาณ 30 ซม. คลุมด้วยฟางแห้ง หญ้าแห้ง รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม ทิ้งไว้ให้   ทิ้งให้อีเอ็มขยายปรับความสมดุลของดิน 10 วันจึงนำพืชมาปลูกได้ตามต้องการ
- ใช้โบกาฉิกับไม้ยืนต้นพืชที่ปลูกไว้แล้ว หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือต้นฤดูฝน เริ่มใช้โบกาฉิโดยหว่านโบกาฉิรอบทรงของพุ่มไม้ผลในอัตราส่วน 1-2 กำมือ/ตารางเมตร ห้ามโรยโบกาฉิชิด หรือติดกับโคนต้นเด็ดขาด เพราะจะทำให้ต้นไม้ตายได้ หากต้นยังเล็ก และการหว่านโบกาฉิรอบทรงพุ่มไม้ผลจะให้ได้ผลดี ควรคลุมด้วยฟางแห้ง หรือหญ้าแห้งให้มากๆ รอบทรงพุ่มให้รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็มในอัตราส่วนที่บอกไว้ข้างต้น การใช้โบกาฉิกับไม้ผลให้ใช้ปีละ 2-3 ครั้ง เช่น หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตของไม้ผลแต่ละประเภท หรืออาจจะใช้ในช่วงฤดูฝน ดังนี้
- ต้นฤดูฝน  ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ควรใส่โบกาฉิในปริมาณค่อนข้างมาก
- กลางฤดูฝน  ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อาจใช้เท่ากับช่วงต้นฤดูฝนหรือน้อยลงก็ได้
- ปลายฤดูฝน  ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ถ้าใส่โบกาฉิมากมาแล้วในช่วงแรกๆ หรือถ้ามีฟาง-หญ้าคลุมให้มาก ก็ไม่ต้องใส่โบกาฉิอีกก็ได้ อาจใช้เฉพาะมูลสัตว์อย่างเดียวก็ได้เพราะเชื้ออีเอ็มมีอยู่บ้างแล้ว

สุดยอดฮอร์โมนจากยอดพืช

การทำ EM (น้ำหมักชีวภาพ) จากยอดพืช
EM (น้ำหมักชีวภาพ)
ในบทความนี้จะแนะนำการทำน้ำหมักชีวภาพจากยอดพืช ที่เรารู้จักกันดี และไม่ต้องซื้อหา เพราะเป็นวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือบางทีอาจมีอยู่ในบริเวณบ้าน หรือในสวนของเราอยู่แล้วครับ
EM (น้ำหมักชีวภาพ) จากยอดพืช
 1. ยอดพืช (อะไรก็ได้) 4 กก. ยอดยูคาลิปตัส 1 กก. ยอดสะเดา 1 กก.
2. ถังพลาสติกขนาด 20 ลิตร
3. จุลินทรีย์อีเอ็ม 200 ซีซี (1 แก้ว)
4. กากน้ำตาล 200 ซีซี (1 แก้ว)
5. น้ำสะอาดประมาณ 15 ลิตร
วิธีทำ EM (น้ำหมักชีวภาพ) จากยอดพืช
1. เก็บยอดพืชตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ 6 กิโลกรัม (ฮอร์โมนใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัว ใช้ยอดผักบุ้ง ยอดพืชตระกูลถั่ว ฯลฯ ฮอร์โมนใช้กับไม้ผล ใช้ยอดมะม่วง ขนุน ฯลฯ ฮอร์โมนใช้ในนาข้าวใช้ยอดหญ้าใบข้าว ใบไผ่ ฯลฯ) แล้วนำยอดพืชล้างให้สะอาดบรรจุลงในถัง
2. เติม EM (น้ำหมักชีวภาพ) และกากน้ำตาลอย่างละ 1 แก้ว
3. เติมน้ำสะอาดลงในถังเกือบเต็ม เหลือให้มีช่องอากาศประมาณ 4 ซม. ใช้พลาสติกปิดปากถังแล้วเอายางรัดไม่ให้อากาศเข้าได้ ตั้งไว้ในที่ร่มไม่ให้โดนแสงแดด หมักไว้ครบ 10 วัน บรรจุลงขวดประมาณ 1 ลิตรได้ประมาณ 15 ขวด น้ำหมักที่ได้จะมีอายุการเก็บรักษาได้ 3 เดือน
วิธีใช้ EM (น้ำหมักชีวภาพ) จากยอดพืช
1. นำฮอร์โมนยอดพืช 40 ซีซี (4 ช้อนโต๊ะ) ผสมกับน้ำ 20 ลิตร (1 ปี๊บ) รดฉีด หรือพ่นตามถนัด
2. สำหรับพืชผักสวนครัว ให้รดหรือฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
3. สำหรับไม้ผล ไม้ยืนต้น รดหรือฉีดพ่นทุกๆ 30 วัน หลังเก็บเกี่ยวช่วงไม้ผลออกดอกห้ามฉีด ไม้ผลที่ดอกยังไม่บานฉีดพ่นได้
4. EM (น้ำหมักชีวภาพ) ที่ดีต้องมีกลิ่นหอมอมเปรี้ยว และมีราสีขาวอยู่ผิวหน้า หากฮอร์โมนมีกลิ่นเหม็นห้ามนำมาใช้กับพืช เพราะจะทำให้พืชตายได้
วัสดุที่ใช้แทนกากน้ำตาล
ในกรณีที่เราไม่มีกากน้ำตาล หรือไม่ใช้กากน้ำตาล ก็สามารถใช้วัสดุเหล่านี้แทนได้ครับ
-  จุลินทรีย์ 1 ช้อน + น้ำอ้อย 2 ก้อน + น้ำ 10 ลิตร
-  จุลินทรีย์ 1 ช้อน + น้ำซาวข้าว 4 แก้ว + น้ำ 10 ลิตร
-  จุลินทรีย์ 1 ช้อน + นมข้นหวาน 2 ช้อน + น้ำ 10 ลิตร
-  จุลินทรีย์ 1 ช้อน + น้ำเปรี้ยว 2 ช้อน + น้ำ 10 ลิตร
-  จุลินทรีย์ 1 ช้อน + น้ำปัสสาวะ 1 แก้ว + น้ำ 10 ลิตร
ผลดีจากการใช้ EM (น้ำหมักชีวภาพ)           
1. ดินโปร่งร่วนซุย หากใช้ติดต่อกัน 3 - 4 ปี
2. ทำให้สัตว์น้ำประเภทต่างๆ เช่น กบ เขียด กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ กลับคืนมาเหมือนเดิม
3. ให้ลดปริมาณปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ลงในปีที่ 3 - 4 และ 5 ประมาณปีละ 15 % แต่ผลผลิตจะคงที่หรือสูงขึ้นเรื่อยๆ
4. หากใช้ในนาข้าว โรคของต้นข้าวจะหมดไป ในปีที่ 2,3 และ4
5. สามารถลดค่าใช้จ่าย เพราะเกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยได้เอง โดยการทำเกษตรแบบยั่งยืน และพึ่งพาตนเองได้