น้ำหมักชีวภาพ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเกษตรกร

“น้ำหมักชีวภาพ” ทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกร

ในการทำเกษตรยุคปัจจุบัน ถือว่าเป็นยุคทองของคนทำเกษตร เพราะทางราชการหรือสื่อต่างๆ ต่างก็ให้ความสำคัญ โดยจะเห็นว่ามีรายการวิทยุหรือสื่อโทรทัศน์ที่เผยแพร่สาธิตแนวทางการเกษตรอยู่หลายรายการ อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลทางด้านการเกษตรออกสู่โลกออนไลน์ให้ผู้สนใจได้ศึกษาหาความรู้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในการทำเกษตรโดยส่วนตัวของผมแล้ว จะไม่ค่อยเน้นเรื่องปุ๋ยเคมีเท่าไรนัก แต่ก็พอมีใช้บ้างนิดๆหน่อย และตั้งใจว่าจะลดค่าใช้จ่ายเรื่องการใช้ปุ๋ยเคมีลงอย่างต่อเนื่องทุกปี เรียกได้ว่าในปีหนึ่งๆในการทำเกษตรของผมจะเสียเงินให้เป็นค่าปุ๋ยเคมีเพียง 1,000 –1,500 บาทเท่านั้น ปีที่แล้วผมปลูกข้าวสองไร่โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีแม้แต่นิดเดียว กลับได้ผลผลิตเพิ่มอย่างน่าพอใจ ส่วนฤดูกาลที่จะถึงนี้ผมก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว คือตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้แปลงนาของผมจะปลอดปุ๋ยเคมี 100 เปอร์เซ็นต์ คือจะใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วยที่ทำเองและปุ๋ยพืชสดแทน หากเกษตรกรท่านใดสนใจก็เชิญทางนี้ครับ..ผมจะเล่าให้ฟัง คือผมจะไถกลบตอซังในแปลงนาเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูฝนคือช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เพื่อให้เกิดการย่อยสลาย จากนั้นก็จะหว่านปอเทืองคลุมดินเอาไว้ แล้วจะไถกลบช่วงระยะออกดอกประมาณ 45 วัน เป็นการใช้ปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน พอถึงฤดูปลูกข้าวผมก็จะทำการไถอีกรอบให้ละเอียด และช่วงที่สำคัญที่สุดของผมก็คือช่วงการทำเทือกหรือช่วงที่เราคราด ก่อนคราดผมจะราดแปลงนาที่ไถพรวนแล้วด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรที่เรียกว่า “จุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรขยาย”  ในอัตรา 20 ลิตร / พื้นที่ 1 งาน (แปลงนา 1 แปลง) เพียงครั้งเดียวแล้วคราดกลบให้จุลินทรีย์กระจายทั่วแปลงนา ก็สามารถปลูกข้าวได้เลย และจะใส่อีกช่วงหนึ่งคือระยะที่ข้าวตั้งท้อง โดยจะใส่พร้อมการขังน้ำเข้าแปลงนาตามปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วันก็จะขังน้ำออก ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่สำคัญ เพียงเท่านี้ผมผลิตที่ตั้งเป้าเอาไว้คร่าวๆ 70 ถัง/ไร่ โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีก็อยู่ไม่ไกลแล้วล่ะครับ